คอร์ส แนวทางเบื้องต้นในการทำงานกับผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว
โมดูลที่ 2 - การฟัง
บทเรียนที่ 2 - การรับฟัง
เริ่มต้นแนะนำตัว
เมื่ออยู่ในสถานที่ที่ผู้เสียหายรู้สึกว่าปลอดภัยและมีการเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว และความต้องการเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ ของผู้เสียหายได้รับการตอบสนองแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างความไว้ใจ ทำความรู้จัก สร้างความมั่นใจ เชื่อใจ ดังนี้
- ทักทายทำความรู้จักและให้กำลังใจผู้เสียหาย
- สร้างความไว้วางใจและความเป็นมิตร
- ประเมินความปลอดภัยเบื้องต้น
- อธิบายหลักการรักษาข้อมูลเป็นความลับให้ผู้เสียหายทราบ พร้อมแจ้งกรณีอันมีข้อยกเว้น
- ขอความยินยอมจากผู้เสียหายในการเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือ (Informed consent)
การสะท้อนและสรุปความ Paraphrasing(8)
คือการที่ผู้ฟังพูดทวนสิ่งที่ผู้เสียหายเล่ามา เพื่อให้ผู้เสียหายได้ทบทวนสิ่งที่ตนเล่าและคิดพิจารณาตาม เหมือนกับการได้มองเห็นตนเองในกระจกเงา
การทวนความไม่ใช่การพูดทวนทุกคําที่ผู้เสียหายพูด แต่เน้นทวนใจความสําคัญที่จะให้คิดทบทวน และอาจเน้นจุดที่เป็นความเข้มแข็ง เป็นอำนาจภายในของผู้เสียหายที่ตัวเขาได้พูดออกมาเอง หรือเป็นเรื่องดีๆ ที่สอดแทรกอยู่
อีกเทคหนึ่งหนึ่งในการสะท้อนและสรุปความ คือ เทคนิคการเชื่อมโยงเหตุการณ์ที่เป็นเหตุเป็นผลกัน หรือการตีความ (Interpretation ) เป็นการที่ผู้ให้การปรึกษากล่าวถึงสภาพการณ์ต่าง ๆ ที่ผู้เสียหายเล่าในลักษณะของเหตุและผล เพื่อให้ผู้เสียหายเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเองและสภาพการณ์ที่เกี่ยวข้อง เข้าใจถึงสาเหตุที่ทําให้เกิดปัญหา หรือสิ่งทําให้เกิดความไม่สบายใจ
นอกจากนี้แล้ว ระหว่างการฟังเราอาจได้ยินข้อมูลที่ขัดแย้งกัน ในการบอกให้ผู้เสียหายตระหนักถึงความขัดแย้งนั้น (confrontation) ไม่ควรใช้คำว่า “แต่” ควรใช้คำว่า “และ” เพื่อไม่ให้ผู้เสียหายรู้สึกว่าเรากำลังจับผิด ตำหนิ หรือคาดคั้น เช่น “คุณรักพ่อแม่ และคุณก็รู้สึกอึดอัดใจในความเคร่งครัดของท่าน”
Tips: ในการสรุปความ
เพื่อไม่ให้ดูเหมือนผู้ฟังมีความมั่นใจในตัวเองมากเกินไป เราอาจเริ่มต้นประโยคด้วยคำว่า “ฟังดูเหมือนว่า” “ดูเหมือนว่า” เช่น “ฟังดูเหมือนว่าคุณรักพ่อแม่ และคุณก็รู้สึกอึดอัดใจในความเคร่งครัดของท่าน”
(8) เรียบเรียงจากเนื้อหาการอบรมงานคุ้มครองเด็ก จัดโดย โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ปี 2564.